ถือได้ว่าเป็นตัวส่งสัญญาณการแสดงบุคลิกและตัวตนของบุคคลนั้น ๆ ได้เป็นอย่างดี ทว่าหากกลิ่นที่ออกมาจากร่างกายเป็นกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์แล้ว คงสร้างความลำบากใจให้ทั้งคนที่อยู่รอบข้างและเจ้าของกลิ่นได้ไม่น้อย กลิ่นตัว หรือ กลิ่นเต่า เมื่อเกิดขึ้นแล้วมักจะเหม็นฉุน จริง ๆ แล้วบางคนอาจไม่ได้มีกลิ่นตัวแรงเท่าไร แต่ติดที่จะใช้น้ำยาระงับกลิ่นเพื่อเพิ่มความหอมและความมั่นใจให้กับตัวเองเท่านั้น แต่ถ้าอยากจะรู้ว่าคุณควรจะใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายหรือไม่ กลิ่นตัวแรงมากทำไงดี ผู้เชี่ยวชาญแนะนำว่าให้คุณลองสังเกตขี้หูของตัวเองดู หากขี้หูแห้งมีลักษณะเป็นแผ่นสีขาวก็ไม่มีความจำเป็นต้องใช้น้ำยาระงับกลิ่นกายแต่อย่างใด เนื่องจากคุณไม่ค่อยมีกลิ่นตัวเท่าไร แต่ถ้าขี้หูของคุณเป็นสีคล้ำ แถมเหนียวและเปียกอีกต่างหาก คุณก็ควรจะหาวิธีลดกลิ่นตัวได้แล้ว
สาเหตุของกลิ่นตัว
ต่อมเหงื่อในร่างกาย ร่างกายจะมีต่อมเหงื่อด้วยกัน 2 ต่อม ได้แก่ ต่อม eccrine ซึ่งเป็นต่อมเหงื่อชนิดที่ไม่มีกลิ่น มักจะอยู่ตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และจะผลิตเหงื่อที่มีลักษณะใสเหมือนน้ำ เหงื่อชนิดนี้จะถูกขับออกมาเมื่อทำกิจกรรมหนัก ๆ หรืออยู่ในภาวะอากาศร้อน ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกายให้คงที่ และต่อม apocrine ซึ่งเป็นต่อมเหงื่อที่มีกลิ่น ซึ่งมักจะกระจายตัวอยู่บางแห่งของร่างกาย โดยเฉพาะตามรูขุมขนบนหนังศีรษะที่จะมีมากที่สุด รองลงมาคือตามรักแร้ ขาหนีบ ก้น และแผ่นหลัง เหงื่อชนิดนี้จะมีลักษณะเหนียวใสคล้ายขี้ผึ้ง มีส่วนผสมของไขมันอยู่มาก นั่นทำให้เวลาเหงื่อชนิดนี้ออกมาก็จะเกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ได้
บทความแนะนำ ผ่าตัดกระเพาะ จากเว็บไซต์ Rattinan.com
กลิ่นตัวแรงมากทำไงดี
- อาบน้ำบ่อย ๆ อาบน้ำให้สะอาดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง เพราะประเทศไทยเป็นเมืองที่ร้อนตลอดทั้งปี ทำให้มีเหงื่อออกได้ง่ายมากเป็นพิเศษอยู่แล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ชอบเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายช่วงเย็น ยิ่งควรอาบน้ำล้างเหงื่อไคลหลังเล่นกีฬา หรือออกกำลังกายเสร็จ และอาบอีกครั้งก่อนเข้านอน
- เลือกใส่เสื้อผ้าให้หลวมขึ้น เสื้อผ้าที่คับพอดีตัวมากเกินไป จะทำให้มีเหงื่อออกมากกว่า เพราะระบายอากาศได้ไม่ดีพอ ควรเลือกขนาดเสื้อผ้า หรือ ชุดชั้นใน ที่เมื่อใส่แล้วเคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวก สบาย มีช่องว่างเหลือระหว่างร่างกาย และเสื้อผ้าเล็กน้อย
- เลือกเสื้อผ้าที่ไม่รั้งแขนเกินไป เสื้อผ้าบางแบบอาจมีช่วงต้นแขน หรือช่วงระหว่างไหล่กับรักแร้ ที่รั้งแน่นจนเกินไป นอกจากจะสวมใส่ไม่สบายตัวแล้ว ยังเป็นการปิดกั้นไม่ให้สามารถระบายอากาศได้ดีมากพอ จนทำให้เกิดเหงื่อ และกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้
- โรลออนสำหรับลดเหงื่อโดยเฉพาะ สำหรับผู้ที่มีเหงื่อออกมากเป็นพิเศษ โรลออนธรรมดาอาจเอาไม่อยู่ ให้ลองเปลี่ยนมาใช้โรลออนสำหรับรักษาอาการเหงื่อออกมากเกินไปโดยเฉพาะ หรือ Antiperspirant ซึ่งโรลออนประเภทนี้ จะมีส่วนผสมของ Aluminum Chloride ที่มีฤทธิ์ในการควบคุมเหงื่อ และช่วยลดขนาดรูขุมขนบริเวณใต้วงแขนให้เล็กลง ทำให้ต่อมเหงื่อแคบลง และเหงื่อไม่ไหลออกมา และถ้าเป็นไปได้ ให้เลือกแบบที่มีสารระงับกลิ่น หรือ Deodorant ประกอบอยู่ด้วย เพราะจะช่วยให้ใต้วงแขนของคุณ ไม่มีกลิ่นได้ตลอดทั้งวัน
- แผ่นแปะรักแร้ดูดซับเหงื่อ มีลักษณะเป็นแผ่นบาง ๆ คล้ายกับแผ่นผ้าอนามัย แต่จะมีรูปร่างที่แตกต่างกัน และเข้ารูปตรงช่วงใต้วงแขนพอดี ไม่หลุดลอกออกง่าย ๆ นอกจากจะช่วยซับเหงื่อได้แล้ว บางสูตรยังช่วยดูดกลิ่นได้ด้วย แต่ราคาค่อนข้างสูงทีเดียว
- แป้งตราเต่าเหยียบโลก แป้งระงับกลิ่นเต่ายอดฮิตระดับตำนาน ที่คนไทยนิยมใช้กัน ขึ้นชื่อว่าช่วยในเรื่องของการระงับกลิ่นได้ดีเยี่ยม สามารถช่วยลดเหงื่อออกบริเวณรักแร้ได้ แต่บางคนอาจใช้แล้วแทบไม่ได้ผลเลยก็มี
- พกกระดาษเปียกหรือทิชชู่เปียกติดตัว สำหรับเช็ดทำความสะอาดจุดที่มีเหงื่อออกมาระหว่างวัน เพื่อลดการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
- เปลือกมะนาวช่วยได้ ฝานเปลือกมะนาวบาง ๆ แล้วบีบน้ำออก จากนั้นจึงเอาเปลือกมะนาวมาถูกับรักแร้ รอสักพักให้แห้ง แล้วทาทับด้วยโรลออน ก็พอจะช่วยลดเรื่องเหงื่อออกมากได้บ้าง
- ฉีดโบท็อกซ์ การฉีดโบท็อกซ์ เพื่อระงับไม่ให้เหงื่อออกในบริเวณรักแร้ สามารถทำได้ แต่ต้องได้เป็นการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น และไม่ได้เป็นการรักษาแบบถาวร โดยอาจมีผลอยู่ได้นานราว 3-6 เดือน ภายใน 1 ปี อาจต้องเข้ารับการฉีดโบท็อกซ์ 2 ครั้ง
- ผ่าตัด และ ลดพุง ในปัจจุบัน มีการผ่าตัดที่ช่วยให้ บริเวณที่เหงื่อออกมากเป็นพิเศษ มีเหงื่อลดลงได้ แต่วิธีการนี้ก็ยังมีข้อเสียอยู่มาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าใช้จ่ายในการผ่าตัด ที่มีราคาสูงหลักหมื่น และในการผ่าตัดเพื่อลดเหงื่อเฉพาะบริเวณนั้น จะทำให้เหงื่อไปออกที่บริเวณอื่นแทน เช่น ผ่าตัดลดเหงื่อที่มือ อาจทำให้มีเหงื่อออกมากที่รักแร้ หรือเท้ามากขึ้นแทน
บทความแนะนำ “ดูดไขมัน” โดยแพทย์สอนดูดไขมัน By Rattinan.com