ปากกาลดน้ำหนัก มีกี่ประเภท ใครเหมาะกับแบบไหน

ปากกาลดน้ำหนัก มีกี่ประเภท

ปากกาลดน้ำหนัก เป็นปากกาที่ใช้สำหรับฉีดเพื่อควบคุมน้ำหนักในร่างกาย ให้คุณทานอาหารได้น้อยลง และรู้สึกอิ่มหลังจากได้รับการฉีดยาชนิดนี้เข้าใต้ผิวหนัง ซึ่งตัวยาชนิดนี้เป็นเปปไทด์โปรตีนที่ออกฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมน GLP-1 ซึ่งมีอยู่แล้วในร่างกายที่จะหลั่งออกมาจากลำไส้หลังรับประทานอาหารเสร็จ จึงทำให้คุณไม่หิวข้าวหรือทานข้าวได้น้อยนั่นเอง ที่สำคัญปากกาลดน้ำหนักได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแล้วว่ามีความปลอดภัย และช่วยในการควบคุมน้ำหนักอย่างปลอดภัยและได้ผลเมื่ออยู่ภายใต้การดูแลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ปากกาลดน้ำหนักจึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการควบคุมน้ำหนัก ดูดไขมัน ปรับพฤติกรรมในการรับประทานอาหารแบบยั่งยืนอย่างปลอดภัย รวมไปถึงระดับไขมันทั่วร่างกายยังลดลงอีกด้วย

ปากกาลดน้ำหนักมีกี่ประเภท ใครเหมาะกับแบบไหน

สำหรับปากกาลดน้ำหนักในปัจจุบันจะมีหลาหลายรูปแบบ โดยคุณสามารถเลือกได้ตามความต้องการ ว่าต้องการฉีดยาทุกวัน หรือฉีดอาทิตย์ละครั้ง แต่การฉีดยาด้วยปากกาลดน้ำหนักขอแนะนำให้ฉีดทุกวันเพราะจะมีผลค้างเขียงน้อยกว่า เพราะการที่ฉีดสัปดาห์ละครั้งจะต้องใช้จำนวน Dose ที่เยอะกว่า ทำให้มีผลค้างเขียงที่มากกว่าการฉีดแบบสัปดาห์ละครั้ง โดยทางทีมแพทย์ที่ Doctor Tony Medical Center จะมีการสอนวิธีฉีดโดยส่วนมากคนใช้ 10 จาก 10 ที่มาใช้บริการจะบอกว่าไม่เจ็บเลย เพราะเรามีเทคนิคเฉพาะในการฉีดแบบไม่เจ็บ โดยจะเป็นเทคนิคในเรื่องของการวางองศาเข็มยังไง และการจับเนื้อที่ท้องบริเวณที่จะฉีดเข้าไปยังไงให้ไม่เจ็บ

อยากใช้ “ปากกาลดน้ำหนัก” ต้องทำอย่างไรบ้าง

ปากกาลดน้ำหนัก เหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน หรือภาวะโรคอ้วน โดยก่อนรักษาจำเป็นต้องพบแพทย์เพื่อซักประวัติ และตรวจร่างกาย รวมไปถึงตรวจเลือดเพื่อดูไขมันในเลือด, การทำงานของตับ ไต และฮอร์โมนในร่างกาย การรักษาด้วยปากกาลดน้ำหนักจะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น

หลักการทำงานของปากกาลดน้ำหนัก

ปกติแล้วทางเดินอาหารจะเป็นตัวสร้าง GLP-1 ขึ้นมา พอเวลาที่เราทานอาหารเข้าไปผ่านทางเดินอาหาร GLP-1 จะหลังออกมาเพื่อไปกระตุ้นสมองเพื่อให้ส่งสัญญาว่าอิ่มได้แล้ว ดังนั้นจึงเป็นที่มาที่เราเอาสาร GLP-1 มาเพื่อเป็นตัวช่วยในการควบคุมการอยากอาหาร ทำให้น้ำหนักของเราลดลงมานั่นเอง

อาการข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังจากใช้ปากกาลดน้ำหนัก

โดยส่วนใหญ่อาการที่เกิดขึ้นหลังฉีดยาได้แก่ คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย หรือท้องผูก ซึ่งอาการเหล่านี้จะเกิดขึ้นเพียงช่วงสัปดาห์แรก ๆ ที่ได้รับยา และอาการจะหายได้เองภายใน 2-3 สัปดาห์ เมื่อได้รับยาอย่างต่อเนื่อง

หากลืมฉีดยาทำอย่างไรดี?

  • หากลืมฉีดยาน้อยกว่า 12 ชั่วโมง สามารถฉีดยาได้ทันทีที่นึกได้
  • หากลืมฉีดยามากกว่า 12 ชั่วโมง ให้ฉีดยาให้วันถัดไปตามเวลาปกติ
  • ไม่ควรเพิ่มขนาดการฉีดยาเองเพื่อชดเชยยาที่ลืมฉีด

ประโยชน์ของปากกาลดน้ำหนัก

  • ช่วยให้น้ำหนักลดลงได้ง่ายขึ้น
  • เป็นสารธรรมชาติที่มีในร่างกาย (GLP-1)
  • ช่วยให้อิ่มได้นานขึ้นช่วยลดนิสัยการกินจุกจิก กินไม่เป็นเวลา
  • ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น ช่วยในเรื่องของระบบความจำ
  • ทำให้ฟังก์ชั่นการทำงานของหัวใจดีขึ้น
  • ช่วยในเรื่องการทางเดินอาหาร เพราะเมื่ออาหารเคลื่อนที่ช้าลง เราก็จะอิ่มเร็วและนานขึ้นรวมไปถึงการทำงานของตับอ่อน
  • นอนหลับได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • ไม่เจ็บระหว่างฉีด
  • ไม่กลับมาอ้วน ไม่มีโยโย่เอฟเฟ๊กต์

ข้อควรระวังในการใช้ปากกาลดน้ำหนัก

เนื่องจากปากกาลดน้ำหนักจะเข้าไปช่วยตับอ่อนในการควบคุมและลดน้ำตาล แต่ถ้ากินน้ำตาลเข้าไป ทำให้น้ำตาลสูงในเลือด เมื่อทานน้ำตาลเข้าไป จะทำให้รู้สึกไม่ดี หรืออาจมีอาการคลื่นไส้ร่วมด้วย เพราะตับอ่อนพยายามตอบสนองในการจำกัดน้ำตาล ดังนั้นช่วงที่ใช้ปากกาลดน้ำหนักจะไม่แนะนำให้ทานอาหารหรือของหวานที่มีน้ำตาลสูง ๆ ซึ่งการลดน้ำตาลก็เป็น Lifestyle ที่ถูกต้องอยู่แล้ว เพราะการลดน้ำหนักในระยะให้ยั่งยืนควรจะลดมาจากLifestyle ดังนั้นจะแนะนำให้เข้าคอร์สใช้ปากกาลดน้ำหนักในระยะสั้น หรือประมาณ 3 เดือนเพื่อปรับ Lifestyle ให้ทานอาหารน้อยลงโดยเฉพาะพวกคาร์โบไฮเดรตและน้ำตาลสูง โดยสามารถทำควบคู่ไปกับการออกกำลังกายและทำ IF

ปากกาลดน้ำหนักซื้อที่ไหน

ปัจจุบัน ปากกาลดน้ำหนักสามารถหาซื้อได้ง่ายขึ้นเพราะกำลังได้รับความนิยม โดยสามารถหาซื้อจากอินเตอร์เน็ตได้เช่นกัน อย่างไรก็ตามการเลือกซื้อ ปากกาลดน้ำหนักจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และที่สำคัญมีแพทย์ผู้มีประสบการณ์เป็นผู้ให้คำปรึกษาและดูแลควบคุมรวมไปถึงการสอนเทคนิคการฉีดที่ถูกวิธีให้คือทางเลือกที่ดีที่สุด อีกทั้งการเลือกซื้อ ปากกาลดน้ำหนักจากแหล่งที่เชื่อถือได้ นอกจากจะปลอดภัยแล้วยังช่วยให้ผู้ลดน้ำหนักได้ถึงเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยอีกด้วย

การเก็บรักษายา

  • ปากกาที่ยังไม่เคยเปิดใช้ให้เก็บในตู้เย็น (อุณหภูมิ 2ºC – 8ºC)
  • ปากกาหลังเปิดใช้ครั้งแรกแล้ว เก็บที่อุณหภูมิห้อง (อุณหภูมิต่ำกว่า 30ºC) ยามีอายุอยู่ได้ 1 เดือน
  • ห้ามแช่ปากกาในช่องแช่แข็ง
  • ควรสวมปลอกยาทุกครั้งเมื่อไม่ได้ใช้งาน
  • ให้ใช้ปากกาแต่ละด้ามสำหรับผู้ป่วยรายเดียวเท่านั้น ไม่ควรใช้ร่วมกันถึงแม้จะเปลี่ยนหัวเข็มก็ตาม

การที่จะมีน้ำหนักและรูปร่างที่สมส่วนอย่างปลอดภัยโดยวิธีทางการแพทย์ นอกจากจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์แล้ว ก็จะต้องทำควบคู่ไปกับการควบคุมอาหารและออกกำลังกายเป็นประจำ เท่านี้ก็จะสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารได้อย่างยั่งยืนซึ่งส่งผลดีกับสุขภาพแบบองค์รวมทั้งภายในและภายนอก