การสักคิ้ว 6 มิติ ราคาช่วยให้ดูดีเป็นธรรมชาติได้จริงหรือ

การสักคิ้ว 6 มิติ

คิ้วถือได้ว่าเป็นมงกุฎบนใบหน้า หากสาว ๆ หรือหนุ่มคนไหนที่มีคิ้วที่ไม่สมส่วนบางเกินไปหรือหนาเกินไปคงต้องหาวิธีที่จะทำให้คิ้วตัวเองดูดีและให้ได้สัดส่วน ซึ่งปัจจุบันนี้การสักคิ้วถือได้ว่าเป็นวิธีที่นิยมทำกันในทุกรุ่นทุกวัย หากใครมีปัญหาขนคิ้วบาง ขนคิ้วน้อย ขนคิ้วแหว่งจากแผลเป็น หรือหางคิ้วตก สามารถมาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อสักคิ้วได้จริง ๆ แล้วคนที่มาสักคิ้วมีทั้งเพศหญิงและเพศชาย เพียงแต่สัดส่วนเพศหญิงมีมากกว่าก็เลยเหมือนกับว่าผู้ชายไม่นิยมทำกัน อันที่จริงผู้ชายที่มาสักคิ้ว 6 มิติ ราคา เพื่อเพิ่มความคมเข้มให้กับใบหน้าก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน

สักคิ้ว 6 มิติ ช่วยให้ดูดีเป็นธรรมชาติได้จริงหรือ

แรกเริ่มเดิมทีการสักคิ้วถาวรจะใช้เทคนิคระบายสีทึบลงบนคิ้วทั้งหมด หลายคนบอกไม่ชอบเพราะดูไม่เป็นธรรมชาติ คิ้วทึบเป็นปื้น ต่อมามีการพัฒนาเทคนิคการสักคิ้วให้ดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น นั่นคือการ สักคิ้ว 3 มิติ ด้วยการวาดขนคิ้วเป็นเส้น ๆ แทรกในแนวขนคิ้วตามธรรมชาติ คิ้วที่สักแบบ 3 มิติจึงดูเป็นธรรมชาติมากกว่าเดิมมาก อย่างไรก็ตาม แวดวงการสักคิ้วยังคงพัฒนาเลเวลความเป็นธรรมชาติของคิ้วให้เหนือชั้นกว่าแบบลายเส้น 3 มิติขึ้นไปอีก นั่นคือเทคนิค การสักคิ้ว 6 มิติ ในขณะที่การสักแบบ 3 มิติ จะสักลายเส้นเป็นเส้นเดี่ยวลากยาวตรงๆ และความสลับซับซ้อนของลายเส้นไม่มากนัก แต่สำหรับการสักลายเส้น 6 มิติ จะเป็นลายเส้นที่มีความสลับซับซ้อน และเน้นลายเส้นที่อิงธรรมชาติ จนดูเหมือนเส้นขนคิ้วจริง ไม่หลอกตา ซึ่งการสักคิ้ว 6 มิตินี้สามารถทำได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย

การสักคิ้ว 6 มิติ สามารถอยู่ได้โดยเฉลี่ย 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของผู้มารับการสัก ผิวแห้งมากหรือผิวมันสีจะจางไปเร็วกว่าคนที่มีผิวปกติ นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับกิจกรรมที่ทำด้วย เช่น ถ้าทำกิจกรรมที่เหงื่อออกบ่อย ๆ หรือต้องโดนน้ำบ่อย ๆ หรือทาไวท์เทนนิ่งบ่อย ๆ หรือโดนแสงแดดเป็นประจำ ก็อาจทำให้ความคงทนของสีลดลงไปได้

ก่อนสักคิ้ว 6 มิติ ต้องเตรียมตัวอย่างไร

ต้องไม่ได้เพิ่งไปทำศัลยกรรมบริเวณตาหรือจมูกมา เพราะการสักคิ้วอาจจะทำให้บริเวณนั้นมีความบอบช้ำมากขึ้น ที่สำคัญ การศัลยกรรมต้องใช้ระยะเวลากว่าจะเข้าที่ หากสักคิ้วทันที คิ้วอาจจะเคลื่อนได้ จึงควรเว้นระยะนาน 1 ปีหลังศัลยกรรม ก่อนที่จะทำการสักคิ้ว

หากเพิ่มฉีดโบท็อกซ์หรือฟิลเลอร์บริเวณใบหน้ามายังไม่ควรทำ เพราะรูปหน้าอาจเปลี่ยน เมื่อสักคิ้วไปก็อาจจะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ควรเว้นระยะประมาณ 1 เดือน และหากอยากฉีดโบท็อกซ์หลังการสักคิ้วก็ควรเว้นระยะ 1 เดือนเช่นเดียวกัน

หากเป็นไข้หวัด มีอาการติดเชื้อ ควรรักษาให้หายก่อน เพื่อป้องกันการอักเสบหรือติดเชื้อหลังการสักคิ้ว เนื่องจากร่างกายไม่มีภูมิต้านทาน

งดการสครับผิวหน้า เพราะการสครับจะทำให้ผิวบางและระคายเคืองได้ง่าย ทำให้เสี่ยงต่อการแพ้และการอักเสบ จึงควรงดสครับผิวหน้าก่อนสักคิ้วประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ รวมถึงการเผชิญกับแสงแดดด้วย เพราะทำให้ผิวบอบบางเช่นเดียวกัน

งดแอลกอฮอล์ การดื่มแอลกอฮอล์จะส่งผลต่อการสมานแผล จึงควรงดแอลกอฮอล์ก่อนการสักคิ้วอย่างน้อย 12 ชั่วโมง

 ผลข้างเคียงจากการสักคิ้วมีอะไรบ้าง

แม้จะมีโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย แต่ผู้ที่สักคิ้วควรหมั่นสังเกตอาการที่เป็นสัญญาณปัญหาสุขภาพ หากพบสิ่งผิดปกติ ควรสอบถามสถานประกอบการที่ไปสักมา หรือปรึกษาแพทย์โดยปัญหาที่อาจพบได้หลังการสักคิ้ว ได้แก่ ได้ผลลัพธ์ไม่เป็นที่น่าพอใจ และแก้ไขได้ยาก เกิดการอักเสบ

หรือเกิดตุ่มเนื้ออักเสบเล็กๆ นูนขึ้นใต้ผิวหนังรอบๆ รอยสัก ผิวหนังเกิดอาการแพ้ เช่น บวม คัน มีรอยแตก ผิวลอกออก หรือมีตุ่มพองใส มีรอยแผลเป็น หรือมีเนื้อเยื่อก่อตัวเป็นแผลเป็นขึ้นจำนวนมาก ติดเชื้อ โดยเฉพาะเชื้อต่าง ๆ ที่เป็นอันตราย เช่น ติดเชื้อเอชไอวี ติดโรคไวรัสตับอักเสบ เป็นต้น

ดูแลตัวเองอย่างไรหลังสักคิ้ว 6 มิติ

ห้ามโดนน้ำ

หลังสักคิ้วไป ห้ามให้คิ้วโดนน้ำเด็ดขาด เพราะความชื้นจากน้ำ จะเข้าไปแทนที่หมึก ทำให้สีจาง หมึกไม่ติดผิว ยิ่งโดยเฉพาะ สาวๆ ที่มีผิวมัน หมึกติดสียากอยู่แล้ว พอแผลถูกน้ำ สียิ่งหลุดเร็วขึ้นไปอีก ที่สำคัญความชื้นอาจทำให้เกิดการสะสมของแบคทีเรีย อาจทำให้แผล เกิดการอักเสบ หรือติดเชื้อได้ ข้อควรทำสำหรับผู้สักคิ้วมาใหม่ ๆ คือ ห้ามให้คิ้วโดนน้ำเป็นอันขาด จนกว่าคิ้วจะลอกหมด เพื่อสีที่ติดสม่ำเสมอ สวยงาม ผู้เข้ารับการสักคิ้วต้องมีความอดทน

ทายาเช้า-เย็น เบา ๆ บาง ๆ เพื่อลดความแห้งตึง

หลังจากสักไปนั้น จะรู้สึกแห้งตึง ให้ทายาที่ทางสถานบริการให้ไปเช้า-เย็น ทาบริเวณที่สักให้ทั่ว อย่างสม่ำเสมอ ทาเบา ๆบาง ๆ ทาไปจนกว่าคิ้วจะลอกหมด เมื่อคิ้วลอกหมดแล้ว สามารถหยุดทายาได้

ไม่ควรแกะสะเก็ดแผลอย่างเด็ดขาด

หลังสักคิ้ว จะเกิดอาการระคายเคือง ลอกและคันบริเวณแผลสัก ทายาที่ทางร้านให้ไป จะช่วยลดอาการคันได้ค่ะ แต่ไม่ควรทาเยอะจนเกินไป ช่วงที่รอความสวย ต้องใจเย็นสักนิด อย่ารีบร้อน อย่าแกะ เกา สะเก็ดแผลบริเวณที่สักโดยเด็ดขาด เพราะ อาจจะทำให้เส้นที่สักลงไปนั้น หลุด แหว่ง เสียรูปทรงได้ แถมเชื้อโรคจากนิ้ว และซอกเล็บ ยังทำให้เกิดความเสี่ยง ต่อการติดเชื้อโรค ทำให้แผลอักเสบได้อีกด้วย ต้องระวังเรื่องนี้ด้วย

ห้ามโดนแดดจัด หรือเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกเยอะ

เมื่อห้ามโดนน้ำ ก็ต้องห้ามโดนเหงื่อด้วย พยายามหลีกเลี่ยง กิจกรรมกลางแจ้งที่ก่อให้เกิดเหงื่อเยอะ ๆ โดยเฉพาะการออกกำลังกาย หรือซาวน์น่า เป็นไปได้ควร งดออกกำลังกายหนัก ๆ เลย อีกอย่าง การโดนแดดจัดก็มีผลต่อการติดสี และส่งผลให้สีหมึกจางลงได้เช่นกัน เลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยง หลบได้หลบ