การทำให้ไขมันหลวมเพื่อดูดออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น แต่การทำให้ไขมันหลวมมีหลายวิธีการ ได้แก่ การใช้คลื่นวิทยุ (RF), การใช้อัลตราซาวด์ (คลื่นเสียง), การฉีดสารละลายบางอย่างที่ทำให้ไขมันแตกตัวและดูดง่ายขึ้น และต้องเป็นสารที่ปลอดภัยไม่มีอันตรายเครื่องดูดไขมันที่ให้บริการเกี่ยวกับความงาม จัดว่าเป็นเรื่องที่ไม่น่าเชื่อถือ การดูดไขมันต้องทำร่วมกันกับการผ่าตัด ต้องอาศัยความรู้เฉพาะทางและต้องทำโดยแพทย์เท่านั้นอย่างเช่นบริเวณน่องเป็นบริเวณที่หลายคนอยากดูดไขมันออก แต่ส่วนมากขนาดของน่องที่ใหญ่ มักไม่ได้เป็นเพราะไขมันแต่เป็นเพราะกล้ามเนื้อมากกว่า อาจต้องเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวิเคราะห์ละเอียดอีกทีว่ามีไขมันสะสม นอกจากนี้ยังต้องทำการศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ให้บริการที่ต้องมีมาตรฐาน
เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการดูดไขมันก็คืออะไร
การดูดไขมัน “ไม่ใช่การลดความอ้วน” แต่เป็นการกระชับสัดส่วนเท่านั้น เพราะในความจริงแล้วไขมันมีน้ำหนักที่เบามากหากเปรียบเทียบกับกระดูกและกล้ามเนื้อ หลังดูดไขมันน้ำหนักอาจจะลดลงเพียงแค่ 1 กิโลกรัมโดยประมาณ รับประทานอาหาร 1-2 มื้อน้ำหนักก็กลับมาเท่าเดิม ไม่ได้ช่วยให้ผอมลง หรือไม่สามารถเปลี่ยนคนอ้วนให้เป็นคนผอมได้ หากต้องการลดความอ้วนยังคงต้องออกกำลังกายและควบคุมอาหารร่วมด้วย
สำหรับการดูดไขมันในบริเวณต่าง ๆ ก็ไม่ได้การันตีว่าไขมันจะหมดไปอย่างถาวร เพียงแต่ช่วยให้ดีขึ้นเท่านั้น สมมติมีไขมันอยู่ 100% หลังดูดออกอย่างมากจะออกไป 60% ของไขมันทั้งหมด หลังจากนั้นไขมันก็อาจจะกลับมาใหม่ เวลาทานอะไรเข้าไป แต่อาจจะกลับมาไม่ถึง 100% โดยอาจจะกลับมาแค่ 80% เท่านั้น แต่ถ้าหากไม่มีการควบคุมอาหารที่ดีพอ ไขมันก็อาจกลับมาเท่าเดิมได้เช่นกัน
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน ก่อนวันดูดไขมัน
เมื่อคนไข้ตัดสินใจได้แล้ว เจ้าหน้าที่จะแนะนำวิธีเตรียมตัวก่อนเข้ารับการผ่าตัดดูดไขมันครับ ซึ่งทาง Amara Clinic จะมีทั้งการดูดไขมันด้วยยาชา และการดูดไขมันแบบวางยาสลบ ให้เลือกครับ ทำให้วิธีการเตรียมตัวก่อนดูดไขมันมีความเคร่งครัด และมีข้อปฏิบัติที่แตกต่างกัน ดังนี้
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน (ยาชา)
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
- ทานอาหารก่อนมาคลินิก 3 ชั่วโมง
- งดการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม
- ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม หลวม ๆ
- พาญาติมาด้วย 1 คน (ห้ามกลับเอง)
การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน (ยาสลบ)
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อย 8 ชม.
- งดดื่ม, กินอาหารทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชม.
- งดสูบบุหรี่ทุกชนิด อย่างน้อย 8 ชม.
- ตัดเล็บมือให้สั้น, เช็ดสีเล็บออก 1 เล็บ
- ถอดเครื่องประดับทุกชนิด
- งดแต่งหน้า, ทาครีมที่ใบหน้า
- งดการดื่มชา กาแฟ น้ำอัดลม
- ใส่เสื้อผ้าสีเข้ม หลวม ๆ
- พาญาติมาด้วย 1 คน (ห้ามกลับเอง)
สิ่งที่ต้องทำในวันดูดไขมัน
- เซ็นเอกสารยินยอมให้คลินิกทำการรักษา
- เปลี่ยนชุด โดยสวมชุดที่ทางคลินิกเตรียมไว้ให้
- บันทึกภาพถ่ายทางการแพทย์ก่อนดูดไขมัน (เพื่อเปรียบเทียบก่อน-หลังดูดไขมัน)
- วัดสัดส่วน ในบริเวณที่ต้องการดูดไขมัน
- หมอจะวาดจุดในบริเวณที่จะดูดไขมันออกมา
- หมอจะอธิบายตำแหน่งในการเปิดแผลดูดไขมัน
- รับประทานยาฆ่าเชื้อก่อนดูดไขมัน
- ขัดผิวด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนดูดไขมัน
- เริ่มขั้นตอนการดูดไขมัน (อธิบายด้านล่าง)
- รีดน้ำออกจากร่างกาย และทำความสะอาดร่างกาย
- เย็บปิดแผลดูดไขมันจุดละ 1 เข็ม
- นอนพักผ่อนที่ห้องพักฟื้นที่คลินิก และกลับบ้านได้
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นหลัง การดูดไขมัน
- รูปร่างอาจไม่กระชับหากไม่สวมชุดกระชับสัดส่วนตามที่แพทย์สั่ง โดยปกติหลังการดูดไขมัน แพทย์จะย้ำให้สวมชุดกระชับสัดส่วนไว้ 24 ชั่วโมงยกเว้นการอาบน้ำอย่างต่ำ 3 วัน หลัง 3 วันหลังการดูดไขมันจะลดหลังเหลือวันล่ะ 12 ชั่วโมง โดยจะเป็นเวลากลางวันหรือกลางคืนก็ได้อีกเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อกระชับสัดส่วนของร่างกายให้เข้าที่ ไม่ให้เกิดอาการหย่อนคล้อยเสียรูปร่าง
2.อาจเกิดอาการวิงเวียน หน้ามืดหลังการดูดไขมัน อาการวิงเวียนอาจจะเกิดจากการเสียน้ำที่ออกจากร่างกายอย่างรวดเร็ว รวมไปถึงน้ำในร่างกายที่เข้าไปทดแทนในส่วนที่เกิดการสลายไขมันและดูดออกไป วิธีแก้อย่างง่ายคือดื่มน้ำมากๆ เพื่อเข้าทดแทน อีกกรณีคือการวิงเวียนหลังจากใส่ชุดกระชับส่วน เพราะการใส่ชุดกระชับสัดส่วนจะทำให้เลือดถูกส่งไปหล่อเลี้ยงสมองเป็นจำนวนมาก และหลังจากถอดชุดออกจะเกิดการคลายตัวของเส้นเลือดอย่างรวดเร็ว ทำให้เลือดถูกดึงกลับมาหล่อเลี้ยงส่วนอื่นอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สมองขาดเลือดชั่วคราว จึงเกิดอาการวิงเวียน หน้ามืด ในบางรายอาจถึงขั้นเป็นลม
ซึ่งในกรณีที่เกิดขึ้นจากการสวมชุดกระชับสัดส่วน ควรดื่มน้ำเพื่อทดแทนส่วนที่ขาดหายไป ไม่ควรอดหรือขาดอาหารเป็นอันขาด และสังเกตอาการของตัวเอง ทางที่ดีไม่ควรอยู่คนเดียวควรมีคนที่ไว้ใจได้หากอะไรปัญหาขึ้นมา