ยกกระชับทรวงอก การผ่าตัดผิวหนังและไขมันส่วนเกินบริเวณหน้าอก ปัญหาหน้าอกหย่อนคล้อย ผิดรูปทรง ถือเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความกังวลใจให้กับผู้หญิงหลาย ๆ คน ไม่ว่าจะเกิดจากอายุ ขนาดของหน้าอก กรรมพันธุ์ การลดน้ำหนัก หรือการให้นมบุตรก็ตามพร้อมทั้งเย็บกระชับกล้ามเนื้อชั้นใน เพื่อให้ผิวหนังบริเวณหน้าอกตึงกระชับขึ้น ช่วยให้สัดส่วนของหน้าอกสมส่วนกับบริเวณอื่นของร่างกาย สามารถเนรมิตหน้าอกที่กระชับ เต่งตึง มีรูปทรงสวยงาม เข้ากับสรีระ ให้กลับมาอีกครั้ง เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเผยเรือนร่างของคุณ
สาเหตุของการเกิดหน้าอกหย่อนยาน มีอะไรบ้าง มาดูกัน
- การเปลี่ยนแปลงของวัย เมื่อมีอายุที่เพิ่มขึ้น ความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อและผิวหนังจะลดลง
- ความเสื่อมสภาพของผิวหนังและกล้ามเนื้อ
- ความอ้วน ทำให้ขนาดหน้าอกใหญ่ขึ้นเกิดการสะสมของไขมัน น้ำหนักของหน้าอกจะมากขึ้นทำให้เกิดการ นมห้อย นมยาน
- การลดน้ำหนักอย่างรวดเร็ว ทำให้ปริมาณไขมันในหน้าอกหายไปอย่างรวดเร็ว ผิวหนังจะเหลือเยอะ เนื้อนมจะหย่อนยาน
- ภาวะหลังการเป็นแม่ และให้นมบุตร ระหว่างการตั้งครรภ์จะมีการสร้างต่อมน้ำนมออกมาปริมาณมากเพื่อผลิตน้ำนม แล้วหลังจากหยุดให้นมบุตรต่อมน้ำนมจะฝ่อลง ขนาดหน้าอกจะลดลงทำให้ หน้าอกหย่อนคล้อย ได้
- กรรมพันธุ์ เนื่องจากมีประวัติทางกรรมพันธุ์หน้าอกใหญ่ ทำให้ หย่อยคล้อยง่าย
- การมีกิจกรรมที่หักโหมและไม่ได้ใช้เสื้อซัพพอร์ตอย่างเพียงพอ
การยกกระชับหน้าอก เหมาะกับใครบ้าง
- คนที่มีปัญหาหน้าอกหย่อยคล้อย ไม่กระชับ
- หัวนมหรือปานนมอยู่ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าปกติ
- คุณแม่ที่มีปัญหาหน้าออกเสียทรงจากการให้นมบุตร
- ผู้ที่ทำหน้าอกมาแล้วมีขนาดไม่เหมาะกับตัว จึงต้องการแก้ไข
- บุคคลที่มีสุขภาพดี ไม่ป่วยด้วยโรครุนแรง หรือที่มีผลต่อการหายของแผล
การเตรียมตัวก่อนผ่าตัด
- ควรลางานประมาณ 1 สัปดาห์
- งดการดื่มน้ำและรับประทานอาหาร 6-8 ชั่วโมง ก่อนการผ่าตัด
- งดทานวิตามินเสริมทุกชนิด 1 เดือน ก่อนและหลังการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่ 1 เดือน ก่อนและหลังการผ่าตัด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ 1 เดือน ก่อนและหลังการผ่าตัด
- ควรมีผู้ติดตามคอยดูแลในวันผ่าตัด ไม่ควรขับขี่ยานพาหนะเอง
- หากมีโรคประจำตัว, ใช้ยาโรคประจำตัว หรือมีประวัติการแพ้ยา ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนนัดทำการผ่าตัด
การดูแลตัวเองหลังผ่าตัด
- จะมีอาการชาบริเวณที่ผ่าตัด โดยอาการจะหายไปเองจนใกล้เคียงปกติภายใน 6 เดือน
- ดูแลแผลผ่าตัดให้แห้งอยู่เสมอ ห้ามแผลโดนน้ำจนกว่าจะตัดไหม
- ควรนอนหงาย และยกตัวสูง เพื่อลดอาการบวม หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ หรือนอนตะแคง
- ควรใส่ Support Bra ไว้ตลอดในระยะ 3 เดือนแรกหลังการผ่าตัด เพื่อรักษารูปทรงของหน้าอกให้กระชับ และลดอาการบวม
- หลีกเลี่ยงการว่ายน้ำ หรือการอาบน้ำในอ่าง 1 เดือนหลังการผ่าตัด
- งดการออกกำลังกายหนัก หรือการเคลื่อนไหวที่กระทบกระเทือนแผล 1 เดือนหลังการผ่าตัด
เทคนิคการผ่าตัด ยกกระชับหน้าอก มีกี่เทคนิคอะไรบ้าง
การผ่าตัดตามเทคนิคดังกล่าวจะช่วยให้เนื้อเยื่อบริเวณหน้าอกถูกยกขึ้น พร้อมปรับรูปทรงเพื่อแก้ไขสัดส่วนโครงสร้าง ความแน่นกระชับของหน้าอก ซึ่งหัวนมและปานวงนมจะถูกย้ายตำแหน่งให้มาอยู่ในตำแหน่งที่ดูเป็นธรรมชาติ มีความสูงเหมือนหน้าอกในวัยสาว แต่ถ้าวงปานนมมีขนาดวงใหญ่ขึ้นอาจมีการตัดผิวหนังรอบข้างออก ถ้าผิวหนังมีปริมาณมากเกินจะมีการตัดออกเพื่อชดเชยกับความยืดหยุ่นที่สูญเสียไป
1. การยกกระชับแบบรูปตัว ทีหัวกลับ ( Anchor )
กรณีที่หน้าอกมีความคล้อยมากที่สุด คือ หน้าอกอยู่ต่ำกว่าระดับใต้ราวนม จึงต้องเลื่อนหัวนม ซึ่งเป็นระยะทางไกล การใช้เทคนิคแผลแนวตั้งอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอ จึงจำเป็นต้องมีแผลในแนวนอน เพื่อให้รูปร่างของหน้าอกกลับมาสวยงาม
การผ่าตัด ยกกระชับหน้าอก เทคนิคนี้ จะมีการตัดเนื้อเต้านมส่วนเกินออก เป็นการ ลดขนาดหน้าอก ร่วมกับการเสริม แพทย์จะทำการตกแต่งผิวหนังเท่านั้น โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับเนื้อเต้านม และการผ่าตัดเทคนิคนี้ สามารถขยับหัวนมและตกแต่งผิวหนังได้มากที่สุด
2. เทคนิคที่มีแผลแนวตั้ง ( lollipop )
กรณีหน้าอกมีความคล้อยมาก คือ ระดับของหัวนมต่ำกว่าระดับของราวนม การผ่าตัดยกกระชับจึงจำเป็นที่จะต้องเลื่อนหัวนมขึ้นให้สูง และต้องตัดผิวหนังออกมา ข้อดีของการ ยกกระชับหน้าอก เทคนิคนี้ คือ ผิวหนังของหน้าอกด้านนอกและด้านในจะถูกขยับมาอยู่ตรงกลาง ทำให้หน้าอกมีรูปร่างเหมือนรูปกรวย ทำให้ส่วนบนของหน้าอกและหัวนมไม่มีลักษณะที่แบนและดูสวยงาม
3. เทคนิคโดนัท ( Donut )
กรณีหน้าอกคล้อยน้อยถึงปานกลาง คือ การตัดผิวหนังรอบปานนมเป็นรูปโดนัท แล้วเย็บเข้าหาหัวนม หลังการเย็บรอบ ๆ ปานนมจะมีผิวหนังเป็นจีบประมาณ 2-3 เดือน
4. เทคนิครูปเสี้ยวพระจันทร์ ( Crescent )
กรณีหน้าอกคล้อยเล็กน้อย คือ การตัดขอบของปานนมเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ แล้วยกตำแหน่งของหัวนมและปานนมขึ้นเล็กน้อย วิธีนี้สามารถขยับปานนมขึ้นได้ 2-3 ซ.ม. และระดับหัวนมขยับขึ้นได้ 1-2 ซ.ม.